ความแตกต่างระหว่างสิทธิประโยชน์ BOI และ Free Zone
Frame • January 4, 2025
ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีนโยบายส่งเสริมการลงทุนที่ดึงดูดนักลงทุนจากทั้งในและต่างประเทศ โดยมีเครื่องมือสำคัญ 2 ประเภท ได้แก่ สิทธิประโยชน์จาก BOI (สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน) และ Free Zone (เขตปลอดอากร) ทั้งสองมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการลงทุน แต่มีความแตกต่างในด้านสิทธิประโยชน์ เงื่อนไข และข้อกำหนด บทความนี้จะวิเคราะห์ความแตกต่างเพื่อช่วยให้นักลงทุนเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับธุรกิจของตน
สิทธิประโยชน์ BOI
- เป็นสิทธิประโยชน์ที่มอบให้โดย BOI สำหรับกิจการที่ได้รับการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุน
- ครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม เช่น เทคโนโลยี การผลิต การเกษตร พลังงานสะอาด และอุตสาหกรรมเป้าหมาย
วัตถุประสงค์
- ส่งเสริมการลงทุนในกิจการที่ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว
สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ
- สิทธิประโยชน์ทางภาษี
- ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุด 8 ปี
- ลดหย่อนภาษีเงินได้เพิ่มเติม 50% อีก 5 ปี (สำหรับบางโครงการ)
- ยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับเครื่องจักรและวัตถุดิบ
- สิทธิประโยชน์อื่น ๆ
- การถือครองที่ดินโดยชาวต่างชาติ
- การอนุญาตให้นำผู้เชี่ยวชาญต่างชาติเข้ามาทำงาน
- การช่วยเหลือด้านฝึกอบรมแรงงาน
เงื่อนไขและข้อกำหนด
- ต้องเป็นกิจการที่อยู่ในประเภทที่ BOI สนับสนุน เช่น เทคโนโลยีขั้นสูง พลังงานสะอาด หรืออุตสาหกรรมเป้าหมาย
- ต้องยื่นขอรับการส่งเสริมและได้รับการอนุมัติ
- มีการติดตามผลการดำเนินงานและรายงานประจำปี
ความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ
- มีความยืดหยุ่นสูงกว่าสำหรับการตั้งกิจการในพื้นที่ใด ๆ ในประเทศไทย และสามารถใช้สิทธิประโยชน์ได้ทั่วประเทศ
ตัวอย่างการใช้งาน
- บริษัทผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ตั้งโรงงานในพื้นที่ใกล้ลูกค้าและได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
ข้อดีและข้อเสีย
- ข้อดี
- สิทธิประโยชน์หลากหลาย ครอบคลุมทั้งภาษีและไม่ใช่ภาษี
- ส่งเสริมการพัฒนาในระยะยาว
- ข้อเสีย
- กระบวนการยื่นขออาจใช้เวลานาน
Free Zone
- เป็นพื้นที่เฉพาะที่กำหนดโดยกรมศุลกากร ซึ่งสินค้าและวัตถุดิบที่นำเข้ามาในเขตนี้จะได้รับยกเว้นภาษีและอากร
- ใช้สำหรับการผลิต การประกอบ การบรรจุ การตรวจสอบ หรือการส่งออก
วัตถุประสงค์
- ลดต้นทุนด้านภาษีและกระตุ้นการส่งออก
สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ
- ยกเว้นอากรขาเข้า สำหรับวัตถุดิบและสินค้าที่นำเข้ามาเพื่อการผลิตหรือส่งออก
- ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับการนำเข้าหรือส่งออก
- การลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ เขตปลอดอากรอยู่ใกล้ท่าเรือ สนามบิน หรือโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ
เงื่อนไขและข้อกำหนด
- ต้องดำเนินกิจการภายในเขตที่กำหนดเป็น Free Zone
- สินค้าหรือวัตถุดิบที่นำเข้ามาในเขตนี้ต้องถูกนำไปใช้ในการผลิตหรือส่งออก
- การขายสินค้าภายในประเทศจะต้องเสียภาษีและอากรตามปกติ
ความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ
- มีข้อจำกัดด้านพื้นที่ ต้องดำเนินกิจการเฉพาะในเขตปลอดอากร
ตัวอย่างการใช้งาน
- โรงงานผลิตสินค้าเพื่อส่งออกที่ตั้งอยู่ในเขตปลอดอากร เช่น ใกล้ท่าเรือแหลมฉบัง หรือสนามบินสุวรรณภูมิ
ข้อดีและข้อเสีย
- ข้อดี
- ลดต้นทุนได้ทันทีจากการยกเว้นภาษีและอากร
- เหมาะสำหรับธุรกิจที่เน้นการส่งออก
- ข้อเสีย
- จำกัดพื้นที่ดำเนินการ
- ขายสินค้าภายในประเทศต้องเสียภาษี
การเลือกใช้ สิทธิประโยชน์ BOI หรือ Free Zone ขึ้นอยู่กับลักษณะธุรกิจและเป้าหมายของผู้ประกอบการ หากธุรกิจของคุณเน้นการพัฒนาระยะยาวและต้องการสิทธิประโยชน์ที่ครอบคลุม BOI อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่หากธุรกิจของคุณเน้นการลดต้นทุนในการส่งออกและต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว Free Zone จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า

By Frame
•
January 15, 2025
BOI (Board of Investment) หรือ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เป็นหน่วยงานภายใต้รัฐบาลไทยที่มีหน้าที่ส่งเสริมการลงทุนในประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนในอุตสาหกรรมที่สำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ BOI มีบทบาทสนับสนุนทั้งนักลงทุนในประเทศและนักลงทุนต่างชาติ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และสร้างความยั่งยืนให้แก่เศรษฐกิจไทย